Saturday, 27 April 2024
SOFT POWER

‘หนองคาย’ โชว์ซอฟต์พาวเวอร์ ผุด ‘กางเกงบั้งไฟพญานาค’ ชูจุดเด่นเอกลักษณ์ประจำจังหวัด ชี้!! ล็อตแรกมีจำนวนจำกัด

(10 เม.ย.67) นางสุกานดา พันธุ์เสือ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.หนองคาย ได้หารือกับส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงอัตลักษณ์ของจังหวัดหนองคาย จัดทำเป็นกางเกง เพราะเห็นหลายจังหวัดเริ่มทำกันแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อหารือกันเพื่อพิจารณาจุดเด่นของจังหวัดหนองคาย จึงลงตัวที่จะผลิตกางเกงลายบั้งไฟพญานาค ออกแบบโดย อาจารย์ณัฎฐ์ จันทร์อ่วม ปราชญ์ด้านการออกแบบลายผ้าจังหวัดหนองคาย

โดยหัวกางเกงเป็นลายพญานาคใหญ่ ซึ่งจะไม่ใช้พญานาคมาเป็นลายบนผ้าเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พญานาคคนส่วนใหญ่ให้ความเคารพศรัทธา จึงควรเลือกวางตำแหน่งให้ถูกต้องเหมาะสม ดังนั้นจึงใช้ลายผ้าที่เรียกว่าลายนาคใหญ่ไว้ด้านบน ถัดลงมาเป็นรูปบั้งไฟพญานาค ดวงสีชมพู มีรถไฟวิ่งบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เนื่องจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่จังหวัดหนองคายเป็นสะพานเดียวที่มีรถไฟระหว่างประเทศแล่นผ่าน

สำหรับกางเกงลายบั้งไฟพญานาคนี้ จะมีให้เลือก 2 สี คือ สีส้มอิฐ ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดหนองคาย และ สีกรมท่าค่อนไปทางสีฟ้า ให้ความรู้สึกคล้ายสีของแม่น้ำ ผลิตจากผ้าไหมอิตาลี เพราะมีความพลิ้ว สวมใส่สบาย ซักแล้วไม่ต้องรีดก็ได้ ทรงกางเกงแบบจั๊ม เอวรูด ฟรีไซส์ ใส่ได้ทุกเพศ มีกระเป๋าด้านข้างทั้งสองข้าง ความยาวกางเกง 40 นิ้ว

โดยล็อตแรกนี้ตัดมาจำนวนจำกัดเพียง 200 ตัว ราคาตัวละ 250 บาท ผู้ที่สนใจเลือกซื้อได้แล้ววันนี้ที่บริษัทกานตนาทัวร์ อ.เมืองหนองคาย หรือ ร้านอินเตอร์สปอต อ.เมืองหนองคาย ช่องทางออนไลน์ ไอดีไลน์ nang9964 หรือโทรศัพท์ 091-5969964

‘กางเกงหอย’ ซอฟต์พาวเวอร์-อัตลักษณ์ ประจำหัวหิน นทท.แห่จอง-ซื้อติดมือเกลี้ยง เตรียมหยิบไปเล่นสงกรานต์

(29 มี.ค.67) นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม ประธานกลุ่มเราเพื่อนกัน อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยว่า จากที่ กลุ่มเราเพื่อนกัน ร่วมกับ การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ อำเภอหัวหิน และเทศบาลเมืองหัวหิน

จัดกิจกรรม เดิน-วิ่ง ‘หัวหิน รักษ์เล#2 หัวหินถิ่นมีหอย HUA HIN THE CITY OF SHELLFISH’ ครั้งที่ 2 ขึ้น เมื่อเดือน ก.พ.67 ที่ผ่านมา พร้อมกับเปิดตัว ‘กางเกงหอย’ สื่อเรื่องราวหัวหินถิ่นมีหอยลงบนกางเกงในรูปแบบเดียวกับกางเกงช้าง โดยมีต้นแบบมาจากกางเกงแมวของโคราช

เพื่อให้เป็น Soft Power และเป็นอัตลักษณ์ของเมืองหัวหินอีกทางหนึ่ง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนนักท่องเที่ยว ทำให้มียอดจำหน่าย ‘กางเกงหอย’ ดีอย่างต่อเนื่องนับพันตัว และล่าสุดได้ไปเปิดจำหน่าย ‘กางเกงหอย’ ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ต วิลเลจ และได้รับความสนใจจากประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมาก สั่งจองและซื้อติดมือเพื่อไปเล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

“ขณะนี้ทางกลุ่มฯ ได้สั่งเพิ่ม ‘กางเกงหอย” ไปกับทางโรงงานอีกราวหนึ่งพันตัว โดยจากเดิมที่เป็นสีเขียว จะมีสีน้ำตาลอ่อนเพิ่มอีกหนึ่งสี เพื่อเป็นทางเลือกของของผู้สวมใส่ เนื่องจากมีประชาชนสอบถามเป็นจำนวนมาก โดย ‘กางเกงหอย’ ล็อตใหม่คาดว่า จะได้ราวสิ้นเดือนเมษายนนี้ ขณะที่ในปีนี้ที่ อ.หัวหิน ได้จัดงานเทศกาลสงกรานต์

“สงกรานต์ คอกระเช้า เสื้อลายดอก สืบสานประเพณีอันดีงามของไทย รับมรดกโลก และมีกิจกรรมมากมาย ที่ตลาดนัดแพไม้ รวม 3 วัน ตั้งแต่ 11-13 เม.ย.นี้ จึงขอเชิญชวนประชาชนนักท่องเที่ยวร่วมเล่นสาดน้ำสงกรานต์ได้ โดยเฉพาะคนที่สวมใส่ ‘กางเกงหอย หัวหิน’ มาเที่ยวภายในงาน ทางเราจะมีของที่ระลึกมอบให้ด้วย” นายนายกิติพงษ์ กล่าว

‘นันยาง’ เกาะกระแส เปิดตัว ‘กางเกงช้างดาว’ สะท้อนเรื่องราวรองเท้าแตะ หวังพารองเท้ายางพาราสัญชาติไทย ให้ต่างชาติรู้จัก-สัมผัสวิถีการสวมใส่

(22 มี.ค. 67) เฟซบุ๊ก​นันยาง Nanyang โพสต์ประกาศเปิดตัว ‘กางเกงช้างดาว’ พร้อมรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งแนวคิดการออกแบบ ความหมายของลวดลาย และราคา รวมถึงช่องทางการสั่งซื้อ โดยระบุว่า…

ครั้งแรกของ ‘ช้างดาว’ ตั้งแต่ พ.ศ. 2496 ที่ผลิต ‘กางเกงช้างดาว’ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ ‘รองเท้าแตะช้างดาว’ ตลอดระยะเวลากว่า 7 ทศวรรษหลายร้อยล้านคู่ได้ผ่านร้อนหนาวร่วมกับคนไทยและชาวต่างชาติทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์ความสบาย ง่ายง่าย ทนทาน ลุยไปทุกที่ ใส่ได้หมดไม่ว่ารวยหรือจน ทุกเพศทุกวัย และได้รับความนิยมจากรุ่นสู่รุ่น ช้างดาวจึงเป็นมากกว่ารองเท้า เป็นมากกว่าแฟชัน แต่เป็น ‘สไตล์’ ที่อยู่เหนือกาลเวลา

ขอเชิญชวนท่านร่วมเป็นเจ้าของ ‘กางเกงช้างดาว’ ใส่คู่กับ ‘รองเท้าแตะช้างดาว’ เพื่อเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้รองเท้าแตะยางพาราสัญชาติไทย ให้ชาวต่างชาติได้รู้จักและสัมผัสวิถีการสวมรองเท้าธรรมดาในวันสบาย ๆ สไตล์ไทยแลนด์ เช่นเดียวกับพวกเราทุกคน

ทั้งนี้เมื่อดูผิวเผินจะเห็นลวดลายอัตลักษณ์ของรองเท้าช้างดาวแล้วนั้น หากพิจารณาให้ลึกเข้าไปข้างในจะเห็นการเล่าเรื่องผ่านรองเท้าที่เป็นสื่อเชิงสัญญะของสัจธรรมแห่งการดำเนินชีวิตอีกด้วย

“เหมือนกันเกินก็เดินลำบาก ต่างกันมากก็ยากจะเดินไหว ต่างคนต่างดีก็ต่างคนต่างไป คู่ที่ตรงใจคือคู่ที่ไปกันทน”

เมื่อ 'อว.' ให้ทุน 'นศ.ต่างชาติ' เรียนต่อ 'ตรี-โท-เอก' ในรั้ว 'ม.ไทย' สะท้อน!! Soft Power ด้านการศึกษาที่พบได้บ่อยจาก 'สยาม'

เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยไทย เชิญชวนนักศึกษาต่างชาติสมัครรับทุนในปีการศึกษา 2567 โดยผู้สมัครที่สนใจสามารถส่งใบสมัครโดยตรงกับสถาบันเจ้าภาพภายในระยะเวลาการสมัครของแต่ละโปรแกรม 

ทั้งนี้ ดาวน์โหลดข้อมูลเกี่ยวกับโครงการทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยเจ้าภาพ และขั้นตอนการสมัครได้ที่: https://mhesi.e-office.cloud/d/ffeb26cc

ทั้งนี้ ‘การมอบทุนการศึกษา’ ถือเป็นเรื่องปกติและเห็นได้บ่อยครั้งในสังคมไทย เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาและเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และให้กำลังใจแก่เยาวชนที่มุ่งมั่น ใฝ่เรียนรู้ การมอบทุนให้แก่นักศึกษาต่างชาติ ก็ถือเป็นการสะท้อน Soft Power ของไทย สื่อถึงการมอบความปรารถนาดี ความเมตตา และโอบอ้อมอารี ที่เป็นนิสัยพื้นฐานของคนไทย

ประมวลภาพ 'เอ็ด ชีแรน' แบบนี้สิถึงไทยจริง ได้เยือนทั้งเจ๊ไฝ แถมสักยันต์ 8 ทิศกับ อ.เหน่ง

เรียกได้ว่าซอฟต์พาวเวอร์เมืองไทยที่ดังไกลทั่วโลกตอนนี้ นอกจาก ‘ไข่เจียวปูเจ๊ไฝ’ แล้ว ก็ยังมี ‘การสักยันต์’ ที่กลายเป็นที่ยอมรับของเหล่าดาราฮอลลีวูด 

ล่าสุด ‘เอ็ด ชีแรน’ ศิลปินดังที่บินมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยก็จัดเต็มทั้งสองอย่าง โดยก่อนแสดงคอนเสิร์ตก็ไปชิมไข่เจียวปูเจ๊ไฝ และพอจบคอนเสิร์ตก็ตามมาด้วยการเดินทางไปสักยันต์กับ อ.เหน่ง อ่อนนุช 

ซึ่งยันต์ที่นักร้องดังเลือกสักคือ ‘ยันต์ 8 ทิศ’ โดยจัดวางตำแหน่งไว้ที่ต้นขาด้านซ้าย ซึ่งเป็นรอยสักแรกที่อยู่บริเวณขาของเจ้าตัว ที่ให้ทั้งเมตตา ปกปักรักษา และป้องกันภัย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ครั้งแรกของเจ้าตัวกับการลงเข็มสัก เพราะดูจากแขนทั้งสองข้างแล้วก็ผ่านการลงเข็มมาไม่น้อย โดยส่วนมากเป็นลายที่เจ้าตัวชื่นชอบ ส่วนการลงเข็มที่เป็นยันต์และเกี่ยวโยงกับความเชื่อ นับว่าเป็นครั้งแรกของเจ้าตัวเลยทีเดียว

‘สมุทรสาคร’ เกาะกระแส!! เปิดตัว ‘กางเกงปูก้ามดาบ’ โชว์อัตลักษณ์ศิลปะ วิถีชีวิต ระบบนิเวศของจังหวัด

(9 ก.พ.67) เปิดตัว 'กางเกงลายปูก้ามดาบ' ผลักดันให้เป็นลวดลายประจำ จ.สมุทรสาคร โดยลวดลายต่าง ๆ บนกางเกงจะมีเรื่องเล่าอันแสดงถึงอัตลักษณ์ทางศิลปะ วิถีชีวิตและระบบนิเวศของสมุทรสาคร ซึ่งประกอบด้วย

>> ลายป่าชายเลน

เป็นลวดลายของต้นโกงกาง สัญลักษณ์แห่งพืชพันธ์ุป่าชายเลน บนเส้นโค้งลงล่างเป็นตัวแทนของพื้นที่น้ำท่วมถึงอย่างชายเลน และหยดน้ำที่แสดงถึงความชุ่มชื่น ประกอบกันเป็นป่าชายเลน แหล่งอาหารสำคัญของท้องสมุทร

>> ลายคลื่นน้ำ 3 ระลอก

เป็นลวดลายของคลื่นน้ำผสานเข้ากับลายเส้นตัดแหลมคล้ายลายกนก จำนวน 3 ระลอก ตลอดแนวชายฝั่ง แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทะเล ความท้าทายของคลื่นลมที่มีต่อวิถีชีวิตการประมงอันนำมาซึ่งอาหารทะเล และความเป็นพื้นที่ติดทะเล ซึ่งติดกับทะเลตลอดแนวชายฝั่งจากตะวันตกสุดของจังหวัด จนถึงตะวันออกสุดของจังหวัด

เป็นลวดลายแสดงถึงความสำคัญของปูก้ามดาบในระบบนิเวศป่าชายเลน โดยปูก้ามดาบนอกจากจะเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนเช่นเดียวกับปลาตีนแล้ว ยังมีหน้าที่เสริมในการเป็น ‘เทศบาล’, ‘ผู้เฝ้ายาม’ และ ‘ผู้ผลิตอาหาร’ แห่งป่าชายเลนด้วย โดยปูก้ามดาบจะกินซากพืช ซากสัตว์เป็นอาหาร และผ่านกระบวนการย่อยสลาย ขับถ่ายออกมาเป็นมูล ซึ่งเปี่ยมด้วยคุณค่าทางสารอาหารสำหรับสัตว์ทะเลขนาดเล็กๆ และเมื่อถูกน้ำทะเลชะล้างก็จะสลายตัวเป็นอาหารให้แก่เหล่าแพลงตอน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของห่วงโซ่อาหารอีกด้วย อีกทั้งปูก้ามดาบยังเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณพิเศษ แสดงพฤติกรรมปิดปากหลุม กลายเป็นการเตือนภัยก่อนน้ำขึ้นด้วย

>> ลายคลื่นน้ำ 3 เส้น

เป็นลวดลายของคลื่นน้ำ จำนวน 3 เส้น แสดงถึงพื้นที่และสมญานาม ‘เมือง 3 น้ำ’ ประกอบด้วย น้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำเกษตรและประมงอันหลากหลายในพื้นที่
ลายปูก้ามดาบใหญ่

>> ลายปูก้ามดาบใหญ่

เห็นเด่นชัด ซึ่งเป็นทำท่าทางคล้ายการแสดงความรักแบบเกาหลี เป็นตัวแทนของการรณรงค์ให้พวกเราช่วยกันบำรุงรักษาและดูแลระบบนิเวศป่าชายเลนให้คงอยู่กับพวกเราตลอดไป

ผู้ผลิตกางเกงลายช้างเชียงใหม่ไม่หวั่น ‘จีน’ ผลิตแข่ง ลั่น!! ไม่กระทบ เพราะคุณภาพของไทยดีกว่าชัดเจน

(5 ก.พ. 67) นางกิ่งกาญจน์ สมร เจ้าของ บริษัท ชินรดา การ์เม้นท์ ผู้ผลิตกางเกงผ้าลายช้าง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่จีนผลิตกางเกงลายช้างขายในตลาด ว่า โรงงานไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวที่เกิดขึ้น ถือเป็นข่าวดีมีลูกค้ามาช่วยแนะนำโรงงาน

ทั้งนี้ สินค้าแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด สีอาจจะคล้ายกัน แต่ทุกอย่างต่างกันแน่นอน ของจีนมีตะเข็บเดียวเพราะประหยัดไป ขายถูก 30 บาท ใช้ผ้ายืด ผ้าหนังไก่ ลายไม่ตรง ไซส์เล็ก ไม่มีไซส์ใหญ่ ชาวต่างชาติใส่ไม่ได้ ขาไม่เท่ากัน สังเกตได้ ส่วนของไทยมีการออกแบบแพทเทิร์นของเอง ขึ้นลายเอง พิมพ์ลายเอง มีเกณฑ์คุณภาพและคิวซี หรือตรวจสอบคุณภาพสินค้าทุกชิ้น 

‘สว.วีระศักดิ์’ ชี้ ‘Soft Power’ ไม่ได้แปลว่า ‘ขายดี’ แต่ต้องมี ‘เสน่ห์’ ที่ทำให้คนปลื้มตาม

(1 ก.พ.67) วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ Weerasak Kowsurat’ ในหัวข้อ ‘Soft Power’ โดยระบุว่า…

"Soft Power ไม่ได้แปลว่า ขายดี
แต่แปลว่า มีพลังดึงดูด
หรือเสน่ห์ที่ผู้อื่นปลื้มตาม โดยไม่รู้ตัว...
เพราะถ้ารู้ตัว ก็ได้ผลเป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้นเอง..."

‘ผู้แทนการค้าฯ’ ชวน ‘อาเลีย บาตต์’ ถ่ายหนังในไทยเพิ่ม หวังโชว์ ‘วัฒนธรรม-อาหาร-สถานที่เที่ยว’ สู่สายตาชาวโลก

(29 ม.ค. 67) นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย กล่าวถึงการได้พบกับ Alia Bhatt (อาเลีย บาตต์) นักแสดงชาวอินเดีย ผู้รับบท ‘คังคุไบ’ จากภาพยนตร์ฮิตเรื่อง Gangubai Kathaiwadi (หญิงแกร่งแห่งมุมไบ) โดยตนได้เชิญชวนให้คุณอาเลีย บาตต์ มาถ่ายภาพยนตร์ในไทยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการมีนางเอกดังระดับโลกมาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยนั้นจะเป็นการเสริมสร้าง Soft Power ให้แก่ประเทศไทย โดยทุกอย่างที่คุณอาเลียทำ อาหารที่รับประทาน สถานที่ที่ไปจะเป็นกระแสและจะได้รับความนิยมจากฐานผู้สนับสนุนจากทั้งในอินเดียและประเทศอื่น ๆ ในชั่วข้ามคืน 

ซึ่งคุณอาเลีย บาตต์ นิยมเดินทางมาไทย โดยก่อนการหารือนั้นก็เพิ่งเดินทางกลับจากจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ ยังชื่นชอบอาหารไทยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ผัดไทย และที่สำคัญคือน้ำมะพร้าวซึ่งเป็นสิ่งแรกที่ต้องทานเมื่อเดินทางถึงไทย

นางนลินี เปิดเผยเพิ่มเติมว่าตนเองยังได้มีโอกาสหารือและชักชวนให้คุณ Sajid Nadiadwala เจ้าของบริษัทภาพยนตร์ชั้นนำของอินเดีย Nadiadwala Grandson Entertainment ซึ่งผลิตภาพยนตร์ไปแล้วกว่า 200 เรื่อง และมีภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เช่น Kick หรือ Highway และยังเป็นประธานสภาผู้ผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์อินเดีย 11 สมัย โดยมีบริษัทผู้ผลิตในเครือราว 400 บริษัท สนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ Bollywood ในไทยเพิ่มเติม โดยชูจุดเด่นด้าน Soft Power ของไทยทั้งในแง่ของผู้คน วัฒนธรรม อาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว

นางนลินี  ระบุว่า คุณ Sajid ยืนยันว่าผู้ผลิตภาพยนตร์อินเดียนิยมที่จะใช้ไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ รวมถึงชื่นชมความสามารถด้านการแสดงของนักแสดงไทย โดยเฉพาะบทการต่อสู้และศิลปะแม่ไม้มวยไทย นอกจากนี้ ตนเองยังได้หารือถึงแนวการสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ของทางประเทศอื่น ๆ เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งในรูปแบบการคืนเงินและการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับปรุงแนวทางการสนับสนุนและดึงดูดการถ่ายทำภาพยนตร์ของต่างชาติในไทยต่อไป

“การถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยจะเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของไทยไปสู่สังคมโลก รวมทั้งยังจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงเงินเข้าประเทศ รวมถึงก่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่อีกด้วย” นางนลินีฯ กล่าวทิ้งท้าย

ห้ามพลาด!! ‘ไอศกรีมทศกัณฐ์-หนุมาน’ ของดี ณ สัทธา อุทยานไทย เชื่อมโยงลายกระเบื้องพระปรางค์วัดอรุณฯ ปลุกกระแสความเป็นไทย

(25 ม.ค. 67) กลายเป็นกระแสฮือฮาอีกครั้งของไอศกรีม 3D ที่เพิ่งกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว ‘ไอติมปลาทู’ ซอฟต์พาวเวอร์ของ จ.สมุทรสงคราม ที่มีนักท่องเที่ยวแห่ชิมเพียบ ทำเอายอดผลิตไม่ทัน หรือจะเป็นต้นตำหรับที่มาแรง ไอศกรีมลายกระเบื้องพระปรางค์วัดอรุณฯ 2 รสชาติแห่งความเป็นไทย ที่ลงใส่ตู้ไอศกรีมครั้งใดต้องหมดเกลี้ยงตู้ในแต่ละวัน

ล่าสุดที่ ณ สัทธา อุทยานไทย อ.บางแพ จ.ราชบุรี ได้ผลิต ‘ไอศกรีมรามเกียรติ์ ทศกัณฐ์ และหนุมาน’ หน้าตาสุดน่ารัก 4 รสชาติ คือ รสน้ำมะพร้าวน้ำหอมอัญชัน รสน้ำมะพร้าวน้ำหอมใบเตย รสนมชมพู และรสชาไทย ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากไอศกรีมลายกระเบื้องพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ที่สื่อถึงความเป็นไทย ทำให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวเน็ต ต่างพากันไปอุดหนุน เรียกได้ว่าลงกี่รอบก็หมดทุกรอบ นอกจากจะได้ชิมรสชาติของไอศกรีมแล้ว ยังสนุกกับการได้ถ่ายภาพไอศกรีมกับมุมต่างๆ ของพระปรางค์วัดอรุณฯ ด้วย

ซึ่งภายใน ณ สัทธา อุทยานไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของ จ.ราชบุรี ที่นักรีวิวต่างพากันไปรีวิว จนมีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศไทยเดินทางไปเที่ยวชมความงามของเทศกาลงานไฟร้อยล้านดวง และชมบรรยากาศความเป็นไทยๆ ที่มีการจำลองแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง ลานพระพุทธรูป 4 สมัย หรือจะเป็นบ้านทรงไทย หุ่นขี้ผึ้งของบุคคลสำคัญต่างๆ และพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองไทย

คุณพลอยพรรณ ขัตติยากรจรูญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ณ สัทธา อุทยานไทย หนึ่งในเจ้าของไอเดียร์ไอศกรีมรามเกียรติ์ กล่าวว่า ไอเทมของไอศกรีม 3D กลายเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ทาง ณ สัทธา อุทยานไทย ได้ออก ‘ไอศกรีมรามเกียรติ์ ทศกัณฐ์ และหนุมาน’ ชวนนักท่องเที่ยว พาทศกัณฐ์ กับหนุมาณ ไปเดินเที่ยวเซลฟี่กับุมมต่างๆ ภายใน ณ สัทธา อุทยานไทย 

โดยภายหลังจากเพจสื่อท้องถิ่นราชบุรี ได้นำ ‘ไอศกรีมรามเกียรติ์ ทศกัณฐ์ และหนุมาน’ ไปเผยแพร่ ปรากฏว่ามีผู้สนใจเข้ามาชม กดไลก์ กดแชร์เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่บอกว่าไอศกรีมรามเกียรติ์มาถึงราชบุรีแล้ว ต้องมาลองชิมให้ได้

ซึ่ง คุณพลอยพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ‘ไอศกรีมรามเกียรติ์ ทศกัณฐ์ และหนุมาน’ ตอนนี้เราได้ออกมา 4 รสชาติ คือ รสน้ำมะพร้าวน้ำหอมอัญชัน รสน้ำมะพร้าวน้ำหอมใบเตย รสนมชมพู และรสชาไทย โดยเราผลิตเพียงวันละ 100 แท่งเท่านั้น จำหน่ายแท่งละ 99 บาท โดยเราใช้สูตรของทาง ณ สัทธา อุทยานไทย ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น มะพร้าวน้ำหอมจากสวน อ.ดำเนินสะดวก มาเป็นรสชาติหลักที่จะให้ความหอมเป็นไทยๆ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการผลิตไอศกรีม ก่อนจะเทลงในแม่พิมพ์ จากนั้นนำไปฟรีซให้ไอศกรีมแข็งตัว เป็นเวลา 1 วัน จากนั้นนำมาบรรจุถุงจำหน่าย ตอนนี้กระแสดีมาก ได้รับการตอบรับดีจริงๆ มีนักท่องเที่ยวมาถามหากันตลอด จนผลิตกันไม่ทัน

ทั้งนี้ ตนจึงอยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้พา ‘ทศกัณฐ์ กับ หนุมาน’ ไปเดินเที่ยวเซลฟี่กับุมมต่างๆ ภายใน ณ สัทธา อุทยานไทย ทั้งกลางวันและกลางคืน รับรองสวยทุกมุม สำหรับท่านที่สนใจจะมาซื้อไอศกรีม ‘ทศกัณฐ์ กับ หนุมาน’ ทางเราจัดสถานที่จำหน่ายไว้ 3 จุด ซึ่งได้แก่
จุดแรก ที่ร้านอาหารรสสัทธา จุดที่สอง เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ และจุดที่สาม ร้านกาแฟหน้าน้ำตก ภายใน ณ สัทธา อุทยานไทย หรือโทรสอบถามได้ที่ 032-383-333 และ 081-5272782


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top